การเลือกซื้อที่นอนแต่ละครั้ง ควรคิดอย่างละเอียดรอบคอบ
เพราะที่นอนอาจต้องอยู่กับคุณไปอีกหลายปี
Sleep Tips
เลือกที่นอนดูจากอะไรบ้าง ?
1. ควรเปลี่ยนที่นอนตอนไหน ?
ที่นอนของคุณอายุมากกว่า 8 ปีหรือยัง ? หลายคนคิดว่า ควรเปลี่ยนที่นอนทุก 8 ปี ในความเป็นจริง คุณควรเปลี่ยนที่นอน เมื่อคุณ ไม่สามารถนอนหลับได้อย่างที่ตื่นขึ้นมาไม่สดชื่น หรือ มีอาการปวดหลัง ดังนั้น โยนความคิด 8 ปีนั้นทิ้งไปได้เลย
แบรนด์ของเรา ผลิตที่นอนคุณภาพการันตีการใช้งานให้คุณมากกว่า 10 ปี
2. ที่นอนแบบไหนเหมาะสำหรับคุณ ?
ที่นอนมีมากมายหลายประเภทตัวเลือกหลักเป็นที่นอนแบบสปริง / โฟม
สปริง ให้ความรู้สึกดั้งเดิมเป็นเอกลักษณ์ยืดหยุ่นเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับทุกวัยระบายความร้อน, รองรับ & กระจายน้ำหนักได้ดี
โฟม ให้การรองรับที่ดี รู้สึกเหมือนถูกโอบกอด
3. คุณตั้งงบไว้เท่าไหร่?
เลือกราคาที่เหมาะกับงบที่คุณตั้งไว้ คุณสามารถหาที่นอนคุณภาพ คุณสมบัติครบ พร้อมดีไซน์สวยในช่วงราคาระหว่าง 15,000 – 30,000 บาท ที่นอนอาจอยู่กับคุณกว่า 10 ปี ดังนั้น
การลงทุนกับการนอนเป็นสิ่งสำคัญ คุณใช้เวลาบนที่นอนอย่างน้อย 8 ชั่วโมง คิดเป็นช่วงเวลา 1 ใน 3 ของชีวิต
4. ระดับความหนาแน่นของที่นอน
มีความสำคัญกับการนอน และอาจส่งผลถึงสุขภาพ & กระดูกสันหลังของคุณได้ ถ้าให้ระดับความนุ่มที่สุดของที่นอน เริ่มจาก 1 ไปจนถึง 10 เป็นที่นอนที่มีความแน่นที่สุด
คนส่วนใหญ่ชอบความหนาแน่นของที่นอน ในช่วงระดับ 5 - 7 ไม่นุ่ม ไม่แข็งเกินไป และยังเหมาะกับทุกอิริยาบถการนอน
คำแนะนำ
ถ้าคุณชอบนอนตะแคง / นอนหันข้าง ควรเลือกที่นอนที่ค่อนข้างนุ่ม
ถ้าคุณชอบนอนหงาย / นอนคว่ำ ควรเลือกที่นอนที่ค่อนข้างแน่น
5. เลือกที่นอนให้พอดีกับความต้องการทั้งคุณ และ คนข้าง ๆ
หากคุณชอบนอนหงาย คุณอาจต้องการที่นอนค่อนข้างแน่น แต่คนข้าง ๆ ชอบนอนตะแคง ต้องการที่นอนค่อนข้างนุ่น หากคุณชอบนอนหงาย คุณอาจต้องการที่นอนค่อนข้างแน่น แต่คนข้าง ๆ ชอบนอนตะแคง ต้องการที่นอนค่อนข้างนุ่น
คุณอาจต้อง หาตรงกลาง ระดับความหนาแน่นที่ลงตัว อาจอยู่ที่ระดับ 5 (จากหัวข้อ 4 หน้าก่อนหน้า) เลือกที่นอนที่มีความนุ่มแน่นปานกลาง
หรือ.. อีกหนึ่งทางออกของปัญหานี้
6. น้ำหนัก & การกระจายน้ำหนักของที่นอน
น้ำหนักตัวเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการเลือกที่นอน ควรเลือกที่นอนสามารถรองรับ & กระจายน้ำหนักได้ดี