อันดับแรก สิ่งที่ต้องตระหนักในการเลือกที่นอนที่ดีให้กับลูก คือ การเจริญเติบโตของเด็ก
ที่นอนอาจต้องอยู่กับเราไปอีกหลาย 10 ปี ในช่วงระยะเวลาระหว่างนั้น
เด็ก ๆ อาจตัวโตขึ้น ขนาดของที่นอนที่เคยพอดีอาจไม่เพียงพอ
อันดับแรก สิ่งที่ต้องตระหนักในการเลือกที่นอนที่ดีให้กับลูก คือ การเจริญเติบโตของเด็ก
ที่นอนอาจต้องอยู่กับเราไปอีกหลาย 10 ปี ในช่วงระยะเวลาระหว่างนั้น
เด็ก ๆ อาจตัวโตขึ้น ขนาดของที่นอนที่เคยพอดีอาจไม่เพียงพอ
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ คือ ประเภทของที่นอน
จากความคิดเห็นส่วนใหญ่ ความชอบของเด็ก ๆ ที่นอนได้รับการพูดถึง & นิยมใช้คือ แบบโฟม แบบสปริง แบบไฮบริด
ที่นอนโฟม
มีหลากหลายแบบ เรียกชื่อตามวัสดุที่ใช้ เช่น
เมมโมรี่โฟม, โปลิโฟม, โฟมยางพารา/ดูราโฟม
โครงสร้างหลักถูกออกแบบ & ผลิตตามสัดส่วนที่เหมาะสม ที่นอนโฟมสามารถรองรับน้ำหนักได้ดี
รองรับการโตขึ้นของเด็ก ๆ และน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นได้
ที่นอนสปริง
โครงสร้างพื้นฐานชั้นในของที่นอนประกอบด้วยลวดโลหะ ถูกขดเป็นแกนสปริง
เช่น การกระโดด กิจกรรมต่าง ๆ การเล่นบนที่นอน
ที่นอนไฮบริด
ที่นอนระบบ Hybrid เป็นที่นอนที่ผสมชั้นวัสดุแบบต่าง ๆ เข้าด้วยกัน อาจมีความหนาเพิ่มขึ้นจากวัสดุอื่น ๆ ที่ถูกเพิ่มเข้ามา
เสริมความนุ่ม ความรู้สึกสบาย รวมถึงสนับสนุนการมีสุขภาพที่ดี
ความทนทานของที่นอน ก็สำคัญไม่แพ้กัน
ลองนึกดูว่า.. คุณใช้งานที่นอนทุกวันหรือไม่?
นอกจาก คุณภาพของวัสดุแล้ว ระยะเวลาในการใช้งานที่นาน
ขึ้นอยู่กับความถี่ในการใช้งานด้วยเช่นกัน รวมถึง น้ำหนักตัวของผู้นอน ด้วย
ความปลอดภัยของที่นอน
ปัญหาที่พบได้บ่อยโดยเฉพาะกับเด็ก ๆ คือ การแพ้สารเคมี
ควรเลือกใช้ที่นอนที่ใช้วัสดุในการ ผลิตจากธรรมชาติ หรือ มองหาที่นอนได้การ รับรองมาตรฐาน จากองค์กรชั้นนำ
ความนุ่ม สบาย
หากวัดระดับความนุ่ม-แน่นของที่นอน โดยใช้ระดับ 1-10 โดยให้1 เป็นระดับที่นุ่มที่สุด และ 10 คือ แน่นที่สุด
เด็ก ๆ ส่วนใหญ่นอนสบายที่ความนุ่ม-แน่นระดับกลาง ประมาณ 4-7
คำแนะนำ
ทดลองนอนบนที่นอน หากเป็นไปได้ควรทดลองนอนจริงอย่างน้อย 10 นาที เพื่อให้เด็กรู้ว่าที่นอนมีความนุ่ม-แน่นเหมาะสมหรือไม่
ควรเช็คเงื่อนไข การรับประกัน & เคลมสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ
คุ้มค่า คุ้มราคา ทั้งในส่วนของคุณภาพวัสดุที่ใช้ คุณสมบัติของวัสดุ และประโยชน์/ผลที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้ที่นอน